Assumption University

Quelle heure est-il????

++ My musiC ++

วันอังคารที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ในหลวง...ที่สุดของหัวใจ

...เรื่องราวต่อไปนี้เป็นตอนหนึ่งในสี่สิบเรื่องของหนังสือ " ที่สุดของหัวใจ "ที่เป็นความผูกพันของคนไทยกับในหลวงซึ่งประทับอยู่ในหัวใจของผู้ที่ได้มีโอกาสสัมผัสใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาท

...อ่านแล้วไม่ต้องสงสัยว่าเหตุใดคนไทยถึงรักในหลวงได้มากมายถึงเพียงนี้ ด้วยรู้แล้วว่าในหลวงพระองค์นี้ทรงรักประชาชนยิ่งกว่าพระองค์เอง


น้ำลด หรือ ยัง โดย ถาวร ชนะภัย

...หลายปีมาแล้วเมื่อครั้งน้ำท่วมภาคใต้ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้รับผลกระทบหนักที่สุด เป็นช่วยเวลาที่การสื่อสารแห่งประเทศไทยได้นำเครื่องโทรพิมพ์มาติดตั้งที่ห้องทรงงานใหม่ๆ ข้าราชสำนักท่านหนึ่งกรุณาเล่าให็ฟังว่า แม้ดึกดื่นเที่ยงคืนแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็ยังไม่เสด็จขึ้นห้องพระบรรทม แต่ทรงคอยติดตามข่าวเรื่องอุทกภัยที่หาดใหญ่อยู่อย่างใกล้ชิด
ด้วยทรงห่วยใยราษฏรจึงทรงส่งคำถามผ่านเครื่องโทรพิมพ์ด้วยพระองค์เอง ถามไปทางหาดใหญ่ว่า " น้ำลดแล้วหรือยัง "โดยที่ไม่ทราบว่าผู้ส่งคำถามมานั้นคือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คำตอบที่มีผ่านมาทางเครื่องโทรพิมพ์เมื่อเวลาตีสองตีสาม มีข้อความที่ตอบด้วยความไม่พอใจว่า " ถามอะไรอยู่ได้ ดึกดื่นป่านแล้ว คนเขาจะหลับจะนอน" แต่ตอนท้ายของคำตอบก็ไม่ลืมที่จะบอกด้วยว่า น้ำลดแล้ว "


ไม่ต้องกั้น โดย ด.ร.สุเมธ ตันติเวชกุล

...... มีอยู่ครั้งหนึ่ง เสด็จฯไปที่เซ็นทรัล วันที่มีประชุมรัฐสภาโลก วันนั้นผมจำได้ผมติดอยู่บนท้องถนน ฝนตก ผมก็มีวิทยุ เลยได้ยินรับสั่งมากับตำรวจมาเลย "วันนี้ไม่ต้องกั้นรถ"ทรงเข้าใจความทุกข์ของราษฏรอยู่ตลอดเวลา วันนี้เป็นวันฝนตกรถติดกันอย่างมหาศาล ถ้าขืนต้องไปติดขบวนอีก สร้างความทุกข์ให้กับประชาชนทรงวิทยุบอกตำรวจว่า " ขบวนจะแล่นไปพร้อมกับรถของประชาชน ไม่ต้องกั้นเคลื่อนที่ไปพร้อมกัน "


ลุงวาเด็ง......โดย มนูญ มุกข์ประดิษฐ์

......วันนี้ลุงวาเด็งพาแววตาที่เป็นประกายมาเฝ้าฟระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วยชุดเต็มยศ ครึ่งท่อนคือ สวมกางเกงตัวเดียวไม่สวมเสื้อ ไม่มีที่ไหนในโลกอีกแล้วที่สามัญชนคนธรรมดาไม่ว่าจะอยู่ในเสื้อผ้าอาภรณ์ใดๆก็มีสิทธิ์เท่าเทียมกันที่จะเข้าใกล้ชิดพระองค์
บอกเล่าความทุกข์สุขกับพระเจ้าแผ่นดินของเขาได้อย่างเสมอภาคกันถ้วนหน้าเช่นนี ลุงวาเด็งดีใจที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินมาถึงหน้าบ้าน จึงเหลียวซ้ายแลขวาหลายครั้งผิดปกติ ในที่สุดก็ได้กราบบังคมทูลอย่างฉะฉานว่า "พระเจ้าอยู่หัวเสด็จมาทั้งทีไม่มีอะไรจะถวาย ผลไม้ในสวนเพิ่งเก็บขายไปได้เงินมาสองหมื่นบาทก็นำเงินไปซื้อเครื่องปั๊มน้ำมาได้ 1 เครื่อง ถอดเอาขึ้นรถและขนไปเลย ขอถวายพระเจ้าอยู่หัว "


ข้าวผัดไข่ดาว......โดย ด.ร.สุเมธ ตันติเวชกุล

......วันหนึ่งเสด็จฯ เขาค้อเปิดอนุสาวรีย์ พอเปิดอนุสาวรีย์เสร็จ พระองค์ท่านก็ขอกลัยไปที่พระตำหนักเฟื่อจะทรงเปลี่ยนฉลองพระบาทเพราะเดี๋ยวจะไปดูงานในป่าในดง
.... เราก็ไม่ได้ทานข้าว ไม่มีใครทานข้าว ตอนนั้นบ่ายสองโมงแล้ว ก่อนจะเปลี่ยนฉลองพระบาทสักยี่สิบนาที น่าจะพุ้ยข้าวทัน
ก็รีบวิ่งไปห้องอาหารที่เตรียมไว้ ปรากฏว่าพวกที่ไม่ได้ตามเสด็จเขาทานกันหมดแล้ว ในนั้นจึงเหลือข้าวผัดติดก้นกระบะ กับมีไข่ดาวทิ้งแห้งไว้ 3-4 ใบ เราก็ตัก เห็นมีข้าวอยู่จานหนึ่งวางไว้ มีข้าวผัดเหมือนอย่างเรา ไข่ดาวโปะใบหนึ่ง มีน้ำปลาถ้วยหนึ่งวางอยู่ เพื่อนผมก็จะไปหยิบมา มหาดเล็กบอกว่า " ไม่ได้ ๆ ของพระเจ้าอยู่หัว ท่านรับสั่งให้มาตัก " ดูสิครับ ตักมาจากก้นกระบะเลย ผมนี่น้ำตาแทบไหลเลย ท่านเสวยเหมือนๆกันกับเรา......

---->ไม่มีกษัตริย์พระองค์ใดที่จะทรงงานหนักเท่ากับกษัตริย์ของไทยพระองค์นี้อีกแล้ว เพราะฉนั้น...พวกเราพสกนิกรชาวไทย
ก็ควรจะรักในหลวงให้มากๆ ไม่ทำให้พระองค์ท้านลำบากหรือหนักพระทัย แค่นั้น...พระองค์ท่านก็ความสุขมากแล้ว<----

ไม่มีความคิดเห็น: